253 Views Report Error
เรื่องราวของหนังเรื่องนี้อิงมาจากเรื่องราวที่ได้เกิดขึ้นจริง เป็นเหตุการณ์ช่วงที่สหรัฐอเมริกากำลังต่อสู้ทางยุทโธปกรณ์และความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีกับโซเวียด ซึ่งตัวละครหลักของเรื่องเป็นหญิงสาวผิวสีสามคน เธอต่างเป็นนักคณิตกรด้วยกันทั้งหมด ได้แก่ แคทเธอรีน จอห์นสัน,โดโรธี วอห์น,แมรี แจ็กสัน ซึ่งพวกเธอต่างทำง่ายกันคนละแผนก แคทเธอรีนถูกส่งไปทำหน้าที่ตรวจสอบตัวเลขความถูกต้องในการคำนวณวงโคจร โดโรธี ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแผนกคณิตกรหญิงผิวสี และแมรี เธอไปอยู่ฝ่ายควบคุมการผลิตและวิศวกรรมการบินและอวกาศในสมัยนั้นยังมีการแบ่งแยกชนชั้นระหว่างคนผิวขาวกับคนผิวสีอย่างเห็นได้ชัดมากๆ พวกเขาไม่แม้กระทั่งใช้ห้องน้ำร่วมกัน ไม่กินน้ำจากที่เดียวกันด้วยซ้ำ แล้วยิ่งพวกเธอเป็นผู้หญิงก็ยิ่งซ้ำร้ายไปกันใหญ่ แต่โชคดีที่พวกเธอไม่เคยคิดท้อแท้ แต่กลับตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองให้สุดความสามารถแน่นอนว่าแคทเธอรีนที่ต้องทำงานร่วมกับชายผิวขาวต้องเจอความมกดดันอย่างมาก เพราะไม่มีใครยอมรับในตัวเธอเลย พวกเขาไม่ให้เกียรติ แถมยังดูหมิ่นความสามาถของเธออีกด้วย เธอได้แต่กัดฟันทน แต่แล้วมันก็ถึงวันที่ความอดทนหมดสิ้นลงเธอเป็นคนทำงานเก่ง และเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะ แต่เธอไม่อยากอยู่ที่องค์กรนี้อีกจึงตัดสินใจลาออก เรื่องไปถึงเจ้านายของเธอ เขาไม่ยอมรับการไม่เคารพกันของคนในองค์กรและทำลายกำแพงความไม่เท่าเทียมกันนี้จนหมดสิ้น เพื่อนของเธออีกทั้งสองคนก็ได้เริ่มต้นชีวิตที่เลือกเอง แมรี ได้เรียนต่อวิศวกรรมศาสตร์ซึ่งเป็นความใฝ่ฝัน ส่วนโดโรธีสามารถเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้อย่างยอดเยี่ยม หนังเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงการเล่าเรื่องเหตุการณ์ในองค์กรนาซ่าที่เราไม่เคยรู้เท่านั้น แต่ยังสะท้อนหลายสิ่งให้เห็น ตั้งแต่สภาพสังคม ลักษณะความคิดของคนในยุคนั้นที่มีต่อผู้อื่น อีกทั้งยังเป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจในชีวิตที่น่าประทับใจอีกเรื่องหนึ่ง แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังที่ชอบมากที่สุดค่ะ อยากแนะนำให้ทุกคนไปดูค่ะ รับรองว่าคุ้มค่าทุกวินาทีอย่างแน่นอนเลย ความรู้สึกจากการชมภาพยนตร์นี้ แน่นอนว่าเราเกิดมาด้วยต้นทุนที่ไม่เท่ากัน ทั้งฐานะหรือชาติกำเนิดที่ถ่ายทอดทางสายเลือด แต่สิ่งที่เราทุกคนพึงมีและควรเห็นว่าคนอื่นนั้นก็ย่อมมีอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือ “ความเป็นมนุษย์” ซึ่งหนังเรื่องนี้ให้ข้อคิดเตือนใจประเด็นนี้ไว้ดีมาก อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามเมื่อพบเจอปัญหาของเหล่าสตรีทั้งหมดในเรื่อง นับเป็นเรื่องน่ายกย่องอย่างแท้จริง ดูหนังใหม่
ผู้กำกับ ธีโอดอร์ เมลฟี
วันที่ฉาย 6 มกราคม 2560
ความยาว 2 ชม. 7 น.