266 Views Report Error
ระหว่างที่ริชาร์ดกำลังวิ่งวุ่นกับการแจ้งหน่วยเก็บกู้ระเบิดอยู่นั้น ในช่วงเวลาเดียวกันก็มีสายโทรศัพท์ปริศนาโทรเข้าไปแจ้งตำรวจว่ามีระเบิดที่งานคอนเสิร์ต เมื่อหน่วยเก็บกู้ระเบิดมาตรวจสอบก็เป็นไปตามคาด กระเป๋าใบนั้นบรรจุระเบิดไว้จริงๆ ริชาร์ดและการ์ดรักษาความปลอดภัยอีกหลายคนจึงรีบช่วยกันผู้คนให้ห่างจากรัศมีของระเบิด ทว่าต่อมาอีกไม่นานก็เกิดระเบิดขึ้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนับร้อยคนริชาร์ดรอดตายมาได้ และถูกสื่อมวลชนยกย่องให้เป็น“ฮีโร่” จากการเป็นผู้แจ้งเบาะแสระเบิด เขากลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน มีผู้คนแห่แหนห้อมล้อมมากมาย เนื้อหอม ถึงขั้นมีสำนักพิมพ์ติดต่อเข้ามาเพื่อจะตีพิมพ์เรื่องราวชีวิตของเขาแต่แล้วภาพฝันอันหอมหวานก็พังทลายลงในชั่วข้ามคืนเช่นกัน เมื่ออีกไม่กี่วันต่อมา FBI ได้รับแจ้งเกี่ยวกับประวัติอันน่าสงสัยของริชาร์ดจากที่ทำงานเก่าว่า เขามักมีพฤติกรรมแปลกๆ ล้นเกินหลายอย่างแบบคนที่มีปมใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจแต่ไม่ได้เป็น เป็นต้นว่าเคยทำงานเป็นรปภ. แต่มักทำรุนแรงเกินหน้าที่ ผดุงความถูกต้องอย่างเถรตรงไม่ลดราวาศอกประหนึ่งว่าตัวเองเป็นตำรวจ และถึงขั้นเคยถูกจับเพราะแต่งตัวเลียนแบบตำรวจด้วยหลังจากนั้นเหตุการณ์ก็พลิกกลับตาลปัตร ริชาร์ดกลายเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะเป็นมือวางระเบิดเสียเอง ด้วยแรงจูงใจว่าอยากเห็นตัวเองเป็นฮีโร่ เมื่อข้อมูลนี้หลุดลอดไปถึงหูสื่อมวลชนที่กำลังหิวข่าวพอดี ริชาร์ดก็ตกเป็นจำเลยของสังคมในทันที ด้วยพลังของการขุดคุ้ยและโจมตีในระดับที่ทำให้ชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งแทบจะพังพินาศลงRichard Jewell (2019) สร้างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในปี 1996 จากฝีมือการกำกับของ คลินต์ อีสท์วู้ด(Clint Eastwood) ยอดนักแสดงและผู้กำกับลายครามวัย90 ผู้เคยฝากผลงานระดับขึ้นหิ้งไว้หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น The Bridges of Madison County (1995) MysticRiver (2003) Gran Torino (2008) ฯลฯก่อนจะไปถึงเหตุการณ์ระเบิดในปี 1996 อันเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง หนังพาเราย้อนกลับไปสำรวจเส้นทางชีวิตของริชาร์ดตั้งแต่ปี 1986 เมื่อครั้งที่เขายังทำงานเป็นเสมียนในสำนักงานทนายความแห่งหนึ่ง และได้รู้จักกับ วัตสัน ไบรอัน ทนายความฝีมือดีซึ่งสนิทสนมและถูกชะตากับริชาร์ดมานับแต่นั้น ผู้ซึ่งในอีกสิบปีต่อมาจะได้เป็นทนายความต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับริชาร์ดริชาร์ดเป็นชายหนุ่มอ้วนฉุ ซื่อๆ เซ่อๆ อ่อนต่อโลกจนเกือบจะไม่ทันคน มีความเป็นโอตาคุและหลงใหลใฝ่ฝันในอาชีพตำรวจอย่างแรงกล้า พยายามฝึกฝนทักษะทุกอย่างด้วยตัวเองตั้งแต่การยิงปืน ทักษะการรับมือกับเหตุด่วนเหตุร้าย (นั่นทำให้เขาเห็นถึงความผิดสังเกตของกระเป๋าปริศนาที่บรรจุระเบิด) ท่องจำข้อกฎหมายและหลักปฏิบัติต่างๆ ของตำรวจได้ขึ้นใจ ถึงขั้นสะสมปืนและอาวุธยุทธภัณฑ์ต่างๆ ไว้เต็มบ้าน พยายามทำงานทุกอย่างที่ใกล้เคียงกับความเป็นตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นเสมียนในสำนักงานทนายความ เจ้าหน้าที่ รปภ. ในวิทยาลัย (ซึ่งถูกไล่ออกเพราะทำเกินกว่าเหตุ) จนกระทั่งจะมารับงานชั่วคราวเป็นการ์ดรักษาความปลอดภัยในงานคอนเสิร์ตดังกล่าวหนังฉายภาพไปที่ตัวตนของริชาร์ดและความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแม่ ความชื่นชมและความภาคภูมิใจในตัวลูกชายเพียงคนเดียวจนเกือบจะล้นเกินของผู้เป็นแม่ การเลี้ยงลูกแบบไข่ในหินที่ทำให้ริชาร์ดกลายเป็นชายหนุ่มที่โตแต่ตัว แต่ไม่เข้าใจความซับซ้อนของโลก ความคิดและทัศนคติที่หล่อหลอมให้เขาเป็นคนเถรตรง ยึดมั่นในความถูกต้อง พร้อมจะช่วยเหลือและปกป้องผู้คน ก็ทำให้ริชาร์ดกึ่งๆ จะหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการที่เห็นตัวเองเป็นฮีโร่ มองเห็นตัวเองเป็น “คนดี” ที่กำลังไล่บี้ “คนเลว” เพื่อปกป้องโลก หรือถ้าจะเรียกด้วยคำศัพท์ยอดฮิตก็อาจพูดได้ว่าริชาร์ดมีพฤติกรรมแบบพวก “จูนิเบียว”หรือ “เบียว” นั่นเองพฤติกรรมดังกล่าวของริชาร์ดกลายเป็นวัตถุดิบชั้นดีสำหรับหน่วยงาน FBI ที่กำลังถูกกดดันอย่างหนักในการควานหาตัวมือวางระเบิด นั่นเพราะมันสามารถเข้ากันได้พอดิบพอดีกับ “ทฤษฎีสมคบคิด” ว่าด้วยมือระเบิดที่จงใจสร้างสถานการณ์เพื่อให้ตัวเองเป็นฮีโร่ (ประกอบกับเคยมีFBI จึงเริ่มจับตาคดีลักษณะนี้ที่เกิดขึ้นจริงแล้วในอดีต)สืบสวนและหาทางวางกับดักต่างๆ เพื่อล่อให้ริชาร์ดเผยพิรุธออกมาในท่ามกลางโยงใยของทฤษฎีสมคบคิดที่สร้างขึ้น หนังทิ้งข้อสังเกตสำคัญไว้ให้เราอย่างน้อย 3 ประการคือประการแรก เราจะได้รับรู้ตั้งแต่ต้นว่าริชาร์ดไม่ได้ “หิวแสง” อย่างที่ FBI และสื่อมวลชนพยายามจะปั้นเรื่องเพราะในช่วงหลังเกิดระเบิดใหม่ๆ ที่มีนักข่าวรุมล้อมริชาร์ดและพยายามตั้งคำถามในเชิงชี้นำให้เขาเอาดีเข้าตัวแต่เพียงคนเดียว แต่ริชาร์ดบ่ายเบี่ยงไปตั้งแต่ครั้งแรกแล้วว่าเขาไม่ได้เป็นคนเดียวที่เป็นฮีโร่ของเหตุการณ์นี้และยกความดีความชอบให้กับเจ้าหน้าที่อีกหลายคนที่เข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บประการที่สอง ผู้ชมอย่างเราที่ได้เห็นพื้นเพภูมิหลังชีวิตของเขามาแล้ว ย่อมมองเห็นว่าชายหนุ่มอ้วนๆ ซื่อๆ คนนี้แทบจะไม่รู้จักโลกของเล่ห์เหลี่ยมกลโกงอะไรเลย เขามองโลกอย่างเถรตรงเหมือนไม้บรรทัด แทบจะไม่รู้วิธีโกหกเพื่อเอาตัวรอดด้วยซ้ำ เขาอาจมีพฤติกรรม “เบียวๆ”แบบมองเห็นตัวเองเป็นฮีโร่ในโลกจินตนาการก็จริง แต่ไม่ได้มีความคิดซับซ้อนและเหลี่ยมจัดพอจะสร้างสถานการณ์เพื่อเรียกร้องความสนใจให้ตัวเองได้ เขาเพียงทำตามความเชื่อของตัวเองที่ว่า “แค่อยู่ถูกที่ ถูกเวลา และทำสิ่งที่ถูกต้อง” เท่านั้น ดูหนังออนไลน์
Richard Jewell.(2019)
กำกับโดย คลินท์ อีสต์วู้ด ประเภทหนัง ดราม่า
ความยาวหนัง 129นาที วันเข้าฉาย 12 ธันวาคม 2562.